ความงานที่ตามหา พร้อมมาตีแผ่
จะปรับลุคให้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายยิ่งขึ้น ทุกอย่างสามารถปรับให้เหมาะกับบุคลิกและการแต่งตัว มีให้เลือก 3 แบบ 3 ลุค แบบนี้เลยแบบที่ 1: Rhythm of Lineเริ่มจากปรับสีผิวให้สว่างใสและเขียนคิ้วให้ค่อนข้างใหญ่และเข้ม จากนั้นระบายสีตาด้วยอายแชโดว์สีม่วงอ่อน เน้นรูปตาด้วยอายแชโดว์สีม่วงเข้มบริเวณหางตา ต่อด้วยการติดขนตาปลอม และเขียนอายไลเนอร์ให้เป็นเส้นคมที่เส้นตาบนเพื่อให้ดวงตาดูกลมโตยิ่งขึ้น สำหรับพวงแก้ม ใช้บลัชออนสีแดงปัดให้ดูมีสีอ่อนๆ ปิดท้ายด้วยการเขียนขอบปากด้วยดินสอเขียนขอบปากสีแดง และใช้ลิปสติกสีเดียวกันทาให้ทั่ว แบบที่ 2: Colour of Nature
ปรับสีผิวให้สวยสดใส เขียนคิ้วตามรูปดั้งเดิม หรืออาจจะใช้วิธีปัดด้วยมาสคาร่าปัดคิ้วเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนของอายแชโดว์จะเป็นโทนกลุ่มสีขาว ส้มอ่อน น้ำตาลอ่อน และทอง โดยแรเงาเปลือกตาให้สวยได้รูป เกลี่ยให้กลมกลืน จากนั้นทาอายแชโดว์สีเขียวอ่อนให้ชิดขอบตาบน ปัดขนตา ต่อด้วยใช้บลัชออนสีส้มและสีเหลืองปัดแก้มให้ดูมีเลือด
ฝาด เช่นเดียวกันกับริมฝีปาก ใช้ลิปสติกโทนสีธรรมชาติเช่น
สีส้ม สีชมพู หรือสีน้ำตาลอ่อนแบบที่ 3: Light and Shade
สำหรับลุคนี้ ปรับสีผิวด้วยรองพื้นสีเข้ม แต่งด้วยไฮไลท์และเฉดดิ้งเน้นโครงสร้างใบหน้าให้แสงเงาสวยและชัดเจน จากนั้นเขียนคิ้วให้สวยได้รูปด้วยสีน้ำตาลอ่อนเพื่อขับให้เห็นความคมชัดเมื่อลงสีเปลือกตา ระบายอายแชโดว์สีน้ำเงินหม่นผสมดำให้ทั่ว เขียนขอบตาทั้งบนและล่าง เน้นเส้นให้คมทั้งเส้นนอกและเส้นใน ปัดขนตาแล้วแซมด้วยขนตาปลอมให้ขนตาแลดูงอนยาว ใช้บลัชออนสีชมพูและขาวสำหรับปัดให้แก้มดูระเรื่อ และใช้ลิป กลอสสีใสหรือลิปสติกสีอ่อนทาริมฝีปากให้ดูเอิบอิ่มในขั้นตอนสุดท้าย Makeup Tips • ก่อนแต่งหน้า ควรสังเกตโครงหน้า จุดเด่น ข้อบกพร่อง และบุคลิกของตัวเอง เพื่อจะได้แต่งหน้าในแบบที่เหมาะกับใบหน้าได้มากที่สุด เช่นคนที่มีตาลึกมากไม่ควรแต่งแบบ smoky eyes เพราะจะยิ่งทำให้เบ้าตาดูลึก ในขณะที่คนตาเล็กแต่งแล้วจะดูดีกว่า เป็นต้น • ในการแต่งหน้า จำไว้ว่าพื้นฐานสำคัญที่สุดคือการแก้ไขรูปหน้า เฉดดิ้ง และไฮไลท์ • นอกจากการทาครีมกันแดดที่ขาดไม่ได้แล้ว ครีมรอง
สีส้ม สีชมพู หรือสีน้ำตาลอ่อนแบบที่ 3: Light and Shadeสำหรับลุคนี้ ปรับสีผิวด้วยรองพื้นสีเข้ม แต่งด้วยไฮไลท์และเฉดดิ้งเน้นโครงสร้างใบหน้าให้แสงเงาสวยและชัดเจน จากนั้นเขียนคิ้วให้สวยได้รูปด้วยสีน้ำตาลอ่อนเพื่อขับให้เห็นความคมชัดเมื่อลงสีเปลือกตา ระบายอายแชโดว์สีน้ำเงินหม่นผสมดำให้ทั่ว เขียนขอบตาทั้งบนและล่าง เน้นเส้นให้คมทั้งเส้นนอกและเส้นใน ปัดขนตาแล้วแซมด้วยขนตาปลอมให้ขนตาแลดูงอนยาว ใช้บลัชออนสีชมพูและขาวสำหรับปัดให้แก้มดูระเรื่อ และใช้ลิป กลอสสีใสหรือลิปสติกสีอ่อนทาริมฝีปากให้ดูเอิบอิ่มในขั้นตอนสุดท้าย Makeup Tips • ก่อนแต่งหน้า ควรสังเกตโครงหน้า จุดเด่น ข้อบกพร่อง และบุคลิกของตัวเอง เพื่อจะได้แต่งหน้าในแบบที่เหมาะกับใบหน้าได้มากที่สุด เช่นคนที่มีตาลึกมากไม่ควรแต่งแบบ smoky eyes เพราะจะยิ่งทำให้เบ้าตาดูลึก ในขณะที่คนตาเล็กแต่งแล้วจะดูดีกว่า เป็นต้น • ในการแต่งหน้า จำไว้ว่าพื้นฐานสำคัญที่สุดคือการแก้ไขรูปหน้า เฉดดิ้ง และไฮไลท์ • นอกจากการทาครีมกันแดดที่ขาดไม่ได้แล้ว ครีมรอง
พื้นก็เปรียบเหมือน second skin หรือผิวที่สองที่ไม่ควรมอง
ข้าม เพราะสามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV ได้อีกทางหนึ่ง • ถ้าไม่มีเวลาลงรองพื้น อย่างน้อยควรใช้แป้งทูเวย์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด และเนื้อแป้งสามารถปกปิดข้อบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าได้อย่างแนบเนียน • ควรใช้พู่กันในการแต่งหน้าทุกครั้ง พู่กันสามารถวาดรูปปากได้ดีกว่าทาด้วยแท่งลิปสติกโดยตรง และสามารถล้างทำความสะอาดได้ จึงไม่ทำให้มีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกตกค้าง การใช้พู่กันยังช่วยให้สีสันของอายแชโดว์ดูกลมกลืนและเนียนเรียบกว่าการใช้นิ้วเกลี่ย • หลักง่ายๆ ในการปัดแก้มให้ดูมีเลือดฝาดเป็นธรรมชาติ คือลากเส้นตรงจากตาดำลงมา แล้วลากเส้นจากฐานจมูกมาบรรจบกัน จากจุดนี้ให้ปัดบลัชออนไล่จากอ่อนไปหาเข้ม เรื่อยขึ้นไปตามโหนกแก้ม สำหรับคนที่มีเนื้อแก้มเยอะ ให้เน้นปัดสีเข้มใต้กระดูก ใบหน้าจะดูเล็กลง • สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งหน้า คือต้องมีความตั้งใจจริง และให้เวลาในการแต่งหน้าอย่างเต็มที่ อย่าคิดว่าการแต่งหน้าคือการทาแค่แป้งและปากเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก
ข้าม เพราะสามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV ได้อีกทางหนึ่ง • ถ้าไม่มีเวลาลงรองพื้น อย่างน้อยควรใช้แป้งทูเวย์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด และเนื้อแป้งสามารถปกปิดข้อบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าได้อย่างแนบเนียน • ควรใช้พู่กันในการแต่งหน้าทุกครั้ง พู่กันสามารถวาดรูปปากได้ดีกว่าทาด้วยแท่งลิปสติกโดยตรง และสามารถล้างทำความสะอาดได้ จึงไม่ทำให้มีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกตกค้าง การใช้พู่กันยังช่วยให้สีสันของอายแชโดว์ดูกลมกลืนและเนียนเรียบกว่าการใช้นิ้วเกลี่ย • หลักง่ายๆ ในการปัดแก้มให้ดูมีเลือดฝาดเป็นธรรมชาติ คือลากเส้นตรงจากตาดำลงมา แล้วลากเส้นจากฐานจมูกมาบรรจบกัน จากจุดนี้ให้ปัดบลัชออนไล่จากอ่อนไปหาเข้ม เรื่อยขึ้นไปตามโหนกแก้ม สำหรับคนที่มีเนื้อแก้มเยอะ ให้เน้นปัดสีเข้มใต้กระดูก ใบหน้าจะดูเล็กลง • สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งหน้า คือต้องมีความตั้งใจจริง และให้เวลาในการแต่งหน้าอย่างเต็มที่ อย่าคิดว่าการแต่งหน้าคือการทาแค่แป้งและปากเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก 














