วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552

กลับมาอีกครั้งกับเทรนด์การแต่งหน้าของ

( MAKE UP TREND 2009 ) โดยในปี2009






ความงานที่ตามหา พร้อมมาตีแผ่


จะปรับลุคให้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายยิ่งขึ้น ทุกอย่างสามารถปรับให้เหมาะกับบุคลิกและการแต่งตัว มีให้เลือก 3 แบบ 3 ลุค แบบนี้เลยแบบที่ 1: Rhythm of Line
เริ่มจากปรับสีผิวให้สว่างใสและเขียนคิ้วให้ค่อนข้างใหญ่และเข้ม จากนั้นระบายสีตาด้วยอายแชโดว์สีม่วงอ่อน เน้นรูปตาด้วยอายแชโดว์สีม่วงเข้มบริเวณหางตา ต่อด้วยการติดขนตาปลอม และเขียนอายไลเนอร์ให้เป็นเส้นคมที่เส้นตาบนเพื่อให้ดวงตาดูกลมโตยิ่งขึ้น สำหรับพวงแก้ม ใช้บลัชออนสีแดงปัดให้ดูมีสีอ่อนๆ ปิดท้ายด้วยการเขียนขอบปากด้วยดินสอเขียนขอบปากสีแดง และใช้ลิปสติกสีเดียวกันทาให้ทั่ว แบบที่ 2: Colour of Nature
ปรับสีผิวให้สวยสดใส เขียนคิ้วตามรูปดั้งเดิม หรืออาจจะใช้วิธีปัดด้วยมาสคาร่าปัดคิ้วเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนของอายแชโดว์จะเป็นโทนกลุ่มสีขาว ส้มอ่อน น้ำตาลอ่อน และทอง โดยแรเงาเปลือกตาให้สวยได้รูป เกลี่ยให้กลมกลืน จากนั้นทาอายแชโดว์สีเขียวอ่อนให้ชิดขอบตาบน ปัดขนตา ต่อด้วยใช้บลัชออนสีส้มและสีเหลืองปัดแก้มให้ดูมีเลือด
ฝาด เช่นเดียวกันกับริมฝีปาก ใช้ลิปสติกโทนสีธรรมชาติเช่นสีส้ม สีชมพู หรือสีน้ำตาลอ่อนแบบที่ 3: Light and Shade
สำหรับลุคนี้ ปรับสีผิวด้วยรองพื้นสีเข้ม แต่งด้วยไฮไลท์และเฉดดิ้งเน้นโครงสร้างใบหน้าให้แสงเงาสวยและชัดเจน จากนั้นเขียนคิ้วให้สวยได้รูปด้วยสีน้ำตาลอ่อนเพื่อขับให้เห็นความคมชัดเมื่อลงสีเปลือกตา ระบายอายแชโดว์สีน้ำเงินหม่นผสมดำให้ทั่ว เขียนขอบตาทั้งบนและล่าง เน้นเส้นให้คมทั้งเส้นนอกและเส้นใน ปัดขนตาแล้วแซมด้วยขนตาปลอมให้ขนตาแลดูงอนยาว ใช้บลัชออนสีชมพูและขาวสำหรับปัดให้แก้มดูระเรื่อ และใช้ลิป กลอสสีใสหรือลิปสติกสีอ่อนทาริมฝีปากให้ดูเอิบอิ่มในขั้นตอนสุดท้าย Makeup Tips • ก่อนแต่งหน้า ควรสังเกตโครงหน้า จุดเด่น ข้อบกพร่อง และบุคลิกของตัวเอง เพื่อจะได้แต่งหน้าในแบบที่เหมาะกับใบหน้าได้มากที่สุด เช่นคนที่มีตาลึกมากไม่ควรแต่งแบบ smoky eyes เพราะจะยิ่งทำให้เบ้าตาดูลึก ในขณะที่คนตาเล็กแต่งแล้วจะดูดีกว่า เป็นต้น • ในการแต่งหน้า จำไว้ว่าพื้นฐานสำคัญที่สุดคือการแก้ไขรูปหน้า เฉดดิ้ง และไฮไลท์ • นอกจากการทาครีมกันแดดที่ขาดไม่ได้แล้ว ครีมรอง
พื้นก็เปรียบเหมือน second skin หรือผิวที่สองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV ได้อีกทางหนึ่ง • ถ้าไม่มีเวลาลงรองพื้น อย่างน้อยควรใช้แป้งทูเวย์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด และเนื้อแป้งสามารถปกปิดข้อบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าได้อย่างแนบเนียน • ควรใช้พู่กันในการแต่งหน้าทุกครั้ง พู่กันสามารถวาดรูปปากได้ดีกว่าทาด้วยแท่งลิปสติกโดยตรง และสามารถล้างทำความสะอาดได้ จึงไม่ทำให้มีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกตกค้าง การใช้พู่กันยังช่วยให้สีสันของอายแชโดว์ดูกลมกลืนและเนียนเรียบกว่าการใช้นิ้วเกลี่ย • หลักง่ายๆ ในการปัดแก้มให้ดูมีเลือดฝาดเป็นธรรมชาติ คือลากเส้นตรงจากตาดำลงมา แล้วลากเส้นจากฐานจมูกมาบรรจบกัน จากจุดนี้ให้ปัดบลัชออนไล่จากอ่อนไปหาเข้ม เรื่อยขึ้นไปตามโหนกแก้ม สำหรับคนที่มีเนื้อแก้มเยอะ ให้เน้นปัดสีเข้มใต้กระดูก ใบหน้าจะดูเล็กลง • สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งหน้า คือต้องมีความตั้งใจจริง และให้เวลาในการแต่งหน้าอย่างเต็มที่ อย่าคิดว่าการแต่งหน้าคือการทาแค่แป้งและปากเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก

ต้อนรับปีใหม่เมืองเหนือ

งานพืชสวนโลก




งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549- 31
มกราคม 2550 นี้ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ต.แม่เหียะ จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 470 ไร่ เป็นงานที่รวบรวม
สุดยอดความมหัศจรรย์แห่งพรรณไม้ ในพื้นที่เขตร้อนชื้นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีควา
มหลากหลายมากที่สุดของพรรณไม้กว่า 2,200 ชนิด กว่า 2.5 ล้านต้น


















งานพืชสวนโลก ้ยังเป็นการประกาศศักยภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตรของไทยด้าน พรรณไม้ดอกไม้ประดับ
ไม้สมุนไพร พืชสวนครัว ไม้แปลกหายาก และ พืชผลทางการเกษตร สู่เวทีตลาดการค้าโลก ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นโ
ดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชส
มบัติครบ 60 ปี และฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา เพื่อแสดงศักยภาพในการเพาะปลูกพันธุ์ไม้เขตร้อน และเ
ทคโนโลยีนวัต




งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน
2549- 31 มกราคม 2550 นี้ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ต.แม่เหียะ จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 470 ไ
ร่ เป็นงานที่รวบรวมสุดยอดความมหัศจรรย์แห่งพรรณไม้ ในพื้นที่เขตร้อนชื้นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียต
ะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความหลากหลายมากที่สุดของพรรณไม้กว่า 2,200 ชนิด กว่า 2.5 ล้านต้นงานพื
ชสวนโลก ้ยังเป็นาศ


สวนนานาชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดแสดงสวนของประเทศต่างๆ ในนามของประมุข รัฐบาล และประชาชนของประเทศนั้นๆ การจัดสวนของแต่ละประเทศแสดงถึงความงดงามทางวัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ โดยขณะนี้มีประเทศที่ตอบรับเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการ 33 ประเทศจาก 5 ทวีปทั่ว
โดยในส่วนของนานาชาติ เข้าร่วมการจัดสวน 3 รูปแบบ ได้แก่ การจัดสวนภายนอกอาคาร (outdoor garden) มี 31 ประเทศ 25 สวน ได้แก่ประเทศเบลเยี่ยม ภูฏาน บังกาเรีย กัมพูชา จีน กาบอง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น เคนยา ลาว มาเลเซีย มอริเตเนีย โมร็อกโก เนปาล เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย ปากีสถาน กาตาร์ สเปญ ซูดาน ตุรกี


ศักยภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตรของไทยด้าน พรรณไม้ดอกไม้ประดับ ไม้สมุนไพร พืชสวนครัว ไม้แปลกหายาก และ พืชผลทางการเกษตร สู่เวทีตลาดการค้าโลก ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี